e-Commerce ธุรกิจดาวรุ่งสำหรับยุคใหม่ 7 เดือนแรกตั้งใหม่ 794 ราย เกือบเท่าทั้งปี 63

e-Commerce ธุรกิจดาวรุ่งสำหรับยุคใหม่ 7 เดือนแรกตั้งใหม่ 794 ราย เกือบเท่าทั้งปี 63

ยุคนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของเหล่าบรรดา e-Commerce จริง ๆ จากสถิติที่ทางกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลออกมา บ่งบอกเลยว่าธุรกิจ e-Commerce เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจนฉุดไม่อยู่จริง ๆ ธุรกิจนี้มีการเติบโตอย่างไรบ้าง ไปดูรายละเอียดกับข่าวนี้กันเลย

วันที่ 10 กันยายน 2564 นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากข้อมูลการวิเคราะห์ธุรกิจในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 ของ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ธุรกิจที่กลายเป็นดาวเด่นประจำเดือนนี้คือ ธุรกิจขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต (e-Commerce) ปัจจุบันมีธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่จำนวน 3,525 ราย และตลอด 5 ปีที่ผ่านมามีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2564 มี ‘ธุรกิจจัดตั้งใหม่’ ภายใน 7 เดือนแรก (มกราคม-กรกฎาคม) จำนวน 794 ราย ซึ่งมีจำนวนเกือบเท่ากับปี 2563 ตลอดทั้งปี ที่มีจำนวน 798 ราย

 

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบในช่วงเดือนก่อนหน้าพบว่า ในเดือนกรกฎาคม 2564 มีจำนวน 112 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ที่มีจำนวน 106 ราย คิดเป็น 5.66% และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกรกฎาคมของปี 2563 ที่มีจำนวน 79 ราย ก็แสดงให้เห็นว่าการจัดตั้งธุรกิจขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต ยังมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องคิดเป็น 41.77% เป็นที่น่าจับตามองถึงยอดจดทะเบียนในครึ่งปีหลังที่จะสร้างโอกาสใหม่ให้ธุรกิจนี้กลายเป็นธุรกิจดาวเด่นของปี 2564 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะได้เร่งสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่

 

“ประเด็นที่น่าสนใจอีกด้านคือ การเข้ามาลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติของธุรกิจ e-Commerce ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน สะท้อนถึงศักยภาพและความน่าสนใจของตลาด e-Commerce ในประเทศไทย โดยสิงคโปร์เป็นประเทศที่ครองแชมป์อันดับที่ 1 มูลค่า 16,045.30 ล้านบาท คิดเป็น 54.18% ของมูลค่าการลงทุนในประเภทธุรกิจนี้ อันดับที่ 2 คือ ฮ่องกง จำนวน 2,224.56 ล้านบาท คิดเป็น 7.51% และ อันดับ 3 จีน จำนวน 321.80 ล้านบาท คิดเป็น 1.09 % และเมื่อเปรียบเทียบเงินลงทุนกับเดือนกรกฎาคมของปี 2563 ที่มีจำนวน 18,541.10 ล้านบาท กับเดือนกรกฎาคม 2564 ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมีจำนวนการลงทุนที่ 19,023.20 ล้านบาท”

 

อย่างไรก็ดี ธุรกิจขายปลีกทางอินเทอร์เน็ตถือเป็นธุรกิจที่มีการรายได้ภายในประเทศสูงถึงระดับ แสนล้านบาทต่อปี โดยในปี 2563 ธุรกิจนี้มีรายได้รวมอยู่ที่ 111,670.15 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยซื้อสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้น สามารถใช้บริการได้แบบใกล้ตัวผ่านโทรศัพท์มือถือ ชำระค่าบริการสินค้าได้ทันทีผ่าน Mobile Banking และระบบการขนส่งสินค้าที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น มากไปกว่านั้น การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตภายใต้การระบาดของโรคโควิด-19 ยังเป็นแรงผลักดันครั้งใหญ่ให้ผู้บริโภคลดการเดินทางออกจากบ้าน จึงจำเป็นต้องซื้อสินค้าผ่านทางโลกออนไลน์เป็นหลัก ทำให้ธุรกิจในกลุ่มนี้ได้รับผลเชิงบวกตามไปด้วย

 

แม้ว่าจากมาตรการ Lock Down จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก แต่ขอฝากความห่วงใยไปถึงผู้ประกอบธุรกิจที่ยังคงต้องเผชิญความท้าทายและเตรียมพร้อมที่จะให้ความสำคัญถึงการจัดส่งสินค้าเพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในแต่ละพื้นที่หรือการติดเชื้อจากพนักงานขนส่งเองก็ดี อาจจะทำให้การจัดส่งสินค้าไม่เป็นไปตามที่ได้ตกลงกับผู้บริโภคได้ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องมองหาผู้ให้บริการขนส่งที่เป็นมืออาชีพสำรองไว้หลายแห่ง เพื่อรองรับอุปสรรคดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นได้

 

ยุค New Normal แบบนี้ สำหรับเจ้า e-Commerce ถือว่าเป็นการเติบโตที่ค่อนข้างดีมาก ๆ ใคร ๆ ก็หันมาเปิดร้านค้าแบบ e-Commerce กันมากยิ่งขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็ค่อนข้างมีหลากหลายแพลตฟอร์มให้เราได้เลือกใช้งาน รวมไปถึงการตั้งร้านค้าขึ้นมาเอง และเพื่อน ๆ คนไหนที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง มาที่ JOBIndy ได้เลย

 

ที่นี่ เรามีนักการตลาดออนไลน์ ที่ปรึกษาทางธุรกิจ ฝีมือขั้นเทพมากมาย

สามารถเลือกสรรกันได้ตามที่ใจเราต้องการ

รวมไปถึงทีมคอนเทนต์ ทีมออกแบบโลโก้ รับทำโฆษณา

พร้อมตั้งธุรกิจ e-Commerce ได้เลย

 

#คิดถึงฟรีแลนซ์ คิดถึง JOBIndy

 

 ------------------------------------------------------------

อย่าลืมกดไลก์ กดแชร์ กดติดตาม เพจ Job Indy และกด See First

รวมไปถึงช่องทาง

LineOA : @Jobindy

Twitter : @JOBIndyOficial

และสามารถเข้าไปโชว์ของ ขายงานได้ที่

www.jobindy.co

จะได้ไม่พลาดเรื่องราวดี ๆ เพื่อชาวฟรีแลนซ์

xx
กำลังโทรหา Video Call...