สิ่งที่คุณต้องเตรียมตัว ก่อนเริ่มทำงาน Freelance!
คำว่า #Freelance แค่ได้ยินชื่อนี้ ก็รู้สึกถึงความมี #อิสระ ใช่ไหมคะเพื่อนๆ
แน่นอนว่า #อาชีพฟรีแลนซ์ เพราะความอิสระในการเลือกและบริหารเวลาได้เอง แถมทำงานที่ไหนก็ได้บนโลก ขอแค่มีอินเตอร์เน็ต ทำให้อาชีพนี้กลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพยอดนิยมสำหรับคนทำงานยุคใหม่เลยก็ว่าได้ หลายคนเป็นฟรีแลนซ์ควบคู่กับการทำงานประจำ และหลายคนเป็นฟรีแลนซ์ Full-time เลยล่ะ!
.
และมีเพื่อนๆ หลายคนที่ยังทำงานประจำอยู่ แต่อยากเริ่มทำงานฟรีแลนซ์ เพื่อเพิ่มรายได้ หากจะเริ่มก้าวเข้าสู่วงการฟรีแลนซ์ต้องทำอย่างไร?
วันนี้แอดมินอินดี้เลยเอา Checklist การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเริ่มทำงานฟรีแลนซ์มาฝากกัน
จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยจ้าาา
.
1. ทักษะการทำงาน ตลาดที่รองรับ และคู่แข่ง
อย่างแรกเลย ต้องสำรวจตัวเองกันก่อนนะคะ ว่าเรามีทักษะความสามารถอะไรบ้างที่ทำได้ดีและสามารถนำมาใช้ในการรับจ้างทำงานได้ เช่น Graphic Design, ช่างภาพ, ตัดต่อวิดีโอ, นักเขียนบทความ, เทรนเนอร์ออกกำลังกาย, ช่างแต่งหน้า เป็นต้น เมื่อเรารู้แล้ว จากนั้นเราต้องสำรวจตลาด ว่าทักษะของเรามีความต้องการในการจ้างงานมากน้อยแค่ไหน? จำนวนคู่แข่งเป็นอย่างไร? การตั้งราคารับงาน ที่เหมาะสมกับสภาพตลาดและการแข่งขันในขณะนั้น นั่นเองค่ะ
.
2. วางแผนจัดการภาษี
ไม่ใช่แค่งานพนักงานประจำ แต่ทุกคนที่มีรายได้ ก็มีหน้าที่ที่ต้องเสียภาษีนะเออ! แน่นอนว่ารายได้ ที่เราได้รับจากงานฟรีแลนซ์ ถือเป็นรายได้สุทธิที่ต้องนำมายื่นภาษีประจำปีด้วยเหมือนกัน ดังนั้น เมื่อเรารับจ้างทำงานแล้ว ควรจะจดบันทึกรายได้ทุกครั้ง เพื่อนำไปคำนวณรายได้สุทธิ ตอนยื่นภาษี, ขอเอกสาร 50 ทวิ/ใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย จากผู้ว่าจ้างทุกครั้ง(ถ้ามี) และอย่าลืมยื่นภาษี ตามแบบ ภ.ง.ด.90 ให้ตรงเวลา ในช่วง ม.ค.–มี.ค. ของปีถัดจากที่ได้รายได้นั้นๆ ด้วยนะ!
.
3. Freelance Full-time ต้องเตรียมประกันสุขภาพด้วยตัวเอง
หากเราตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ว่าจะลาออกจากงานประทำมาฟรีแลนซ์เต็มตัว เราก็จะไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลเหมือนพนักงานประจำแล้ว ดังนั้น ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเจ็บป่วย (เผื่อบางช่วงทำงานหักโหม อดหลับอดนอน มากไปไงล่ะ!
) ทั้ง OPD/IPD เจ็บหนัก-เจ็บเบา-อุบัติเหตุพื้นฐานเลยต้องมีประกันสังคม (มาตรา 40) หรือถ้าใครไม่มั่นใจว่าประกันสังคมจะไม่ครอบคลุมก็สามารถซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมได้เหมือนกัน มีไว้อุ่นใจกว่านะ
.
4. บริหารเวลา-จัดการชีวิตให้ดีๆ
กับดักของการมีอิสระทางเวลาที่ฟรีแลนซ์หลายๆ คนเป็นต้องเจอ นั่นคือ การบริหารเวลาไม่ Flow ไม่แบ่งสัดส่วนเวลาเล่น-เวลาพัก-เวลาทำงาน ให้ดีๆ รับรองหัวหมุน นู่นนี่นั่น พันกันยุ่งเหยิง งานเสร็จทันบ้าง ไม่ทันบ้างล่ะ แลดูไม่มืออาชีพเอาซะเลย...
ดังนั้น การเป็นฟรีแลนซ์ไม่ใช่ว่าอยากทำงานตอนไหนก็ทำตามอารมณ์ แต่มันคือการที่เราต้องวางตาราง บริหารจัดการชีวิตการทำงาน/เวลาส่วนตัว ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้นเอง ใครรู้ตัวว่ายังบริการเวลาไม่เก่ง แอดมินแนะนำให้ใช้ Organizer จะเป็นสมุดก็ดี แอปพลิเคชั่นก็ได้ รับรองช่วยได้เยอะเลยจ้า
.
5. การหาลูกค้า-โปรโมทงานของตัวเอง
ไม่มีลูกค้า = ไม่มีรายได้ นะเออ!
จะเป็นฟรีแลนซ์ทั้งที นั่งเฉยๆ งานไม่มานะคะ นอกจาก Connection แล้ว
#ช่องทาง ที่จะทำให้ลูกค้ามาเจอเราให้ได้ ก็เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ไม่ว่าเป็นการสร้างช่องทางของตัวเอง เช่น Website Portfolio, Facebook Fanpage เรายังสามารถไปฝากโปรไฟล์/โพสต์รับงาน ในช่องทางที่เป็นแหล่ง Community รวมคนหางาน-รับงาน ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะโพสต์ตาม Facebook Group, Webboard, เว็บรับฝากงานต่างๆ เป็นต้น
.
.
และอีกหนึ่งช่องทางที่ชาวฟรีแลนซ์ห้ามพลาด!
สมัครสร้าง Profile ฝาก Portfolio และโพสต์ขายงาน กับ
#JOBIndy
แพลตฟอร์มฝากงาน แหล่งรวม Freelance มืออาชีพ หางานที่ใช่ หาคนทำงานที่ชอบ!
.
Line OA : @Jobindy
Facebook : Jobindy